วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2551

เพราะชีวิตเลือกเกิดไม่ได้

ใครพอจะมีโอกาสขายให้มี่บ้างคะ มี่ขอซื้อต่อหน่อย

ถ้ามี่จะเล่าเรื่องอะไรให้ฟัง พี่ๆจะอยากฟังกันมั้ย มันเป็นเรื่องจริง ยืนยันทุกคำพูดเลยว่าจริง ที่ซอยรามคำแหง 37 ซอยเล็กๆข้างเมเจอร์ฮอลิวูด สาขารามคำแหง มีร้านเกมส์เล็กๆร้านนึง จบเรื่องร้านเกมส์ไว้ก่อน

มี่รู้จักเด็กผู้ชายคนนึง เห็นหน้าบ่อยๆ เวลามี่ไปดูหนังและออกมาจากเมเจอร์ ไอ้เด็กคนนี้แหละ จะมาคอยยืนขอเงินคนที่หน้าเมเจอร์
หน้าตาท่าทางไม่น่าไว้ใจเลย ตอนนั้นมี่คิดแบบนั้น และยืนมองเงียบๆ เห็นมันขอตังเค้าไปทั่วเลย ใครไม่ให้ มันก็ทำหน้าตากวนตีนใส่ ซะงั้น แล้วท่าทางแบบนี้คงไม่มีใครให้อ่าแหละ มี่ก้อมอง มันคงรู้ว่ามี่มอง มันมองกลับมา ว้า ซวยแล้ว มันมาขอตังมี่แน่ แล้วก็เป็นไปตามคาด มี่บอกไม่มีมันก็ยังตื้ออยู่นั่นแหละ จนให้ตัดความรำคาญไป มันก็ดีใจใหญ่เลย ยกมือไหว้ขอบคุณคับ แล้ววิ่งดี๊ด๊าหายไปในซอย

มีพี่คนนึงเพิ่งเลิกงาน ออกมาเห็น เลยบอกมี่ว่า น้องๆ ทีหลังไม่ต้องให้มันหรอก ไอ้เนี่ย มันได้ตังก็เอาไปเล่นเกมส์ นั่งเฝ้าแต่ร้านเกมส์ เล่นตังหมดก้อออกมาขอตังคนใหม่ มี่ก้อได้แต่ตอบรับไปว่า ค่ะๆๆ

ด้วยความที่หอมี่อยู่ใกล้ๆ แล้วมี่ก็มีธุระที่เมเจอร์ทุกวัน ทำให้มี่ได้เจอเด็กคนนี้เรื่อยๆ มันก็ขอมี่เรื่อยๆ มี่ก้อให้บ้าง ไม่ให้บ้าง แล้วแต่วันไหนมีเศษตังหรือไม่มี เห็นจนจำกันได้ แต่กระนั้นมันก็ยังขออยู่ เหอะๆ มี่ก็นึกถึงคำพูดของพี่พนักงานที่เคยบอกมี่ไว้ว่ามันเอาไปเล่นเกมส์ อยากจะด่ามันแต่ก็เงียบดีกว่า ตอนนั้นก็คิดแค่ว่า แมร่ง ไอเด็กเวร พ่อแม่ไม่สั่งสอนไงวะ ปล่อยลูกมาขอตังชาวบ้านเค้า

จนกระทั่ง วันนึง วันที่มี่ได้เปลี่ยนความคิดเกี่ยวที่เคยมีกับตัวไอ้เด้กคนนี้ทั้งหมด วันนั้น มี่ต้องใช้เน็ต เนตหอมันดาวน์ และมี่ก้อต้องไปเมเจอร์ด้วย ระหว่างรอทำธุระ มี่เลยแวะร้านเนต ซอยข้างๆนั่นแหละ มี่เจอเด็กคนนี้แหละ นั่งเล่น cs อยู่ มีเด็กรุ่นๆเดียวกัน 3-4 คน เล่นกัน มี่เลยเดินไปเขกกบาลมันทีนึง แล้วด่ามันว่า ไหน นี่ขอตังมาเอามาเล่นเกมส์หมดเลยใช่ไหม ไหนบอกเอาไปซื้อข้าว เด๋วทีหลังเจอมาขออีก กุจะตบให้ มันก้อได้แต่ยืนคลำหัวป้อยๆ มองหน้ามี่แล้วทำตาปริบๆ ร้องโอดโอยไปตามเรื่อง ว่ามี่ใจร้ายอย่างงั้น ใจร้ายอย่างงี้

มี่ยืนเฉ่งมันอยู่ซักพัก เลยนั่งเครื่องใกล้ๆมัน ไม่พูดอะไร ต่อ หางานที่จะต้องส่ง ทำงานไปซักพัก มันมาสะกิดข้างหลัง พี่ๆ มีไฮ 5 มั้ย ขอหน่อย จะไปเม้นให้ มี่เลยหันไปด่า บอกว่าทำงานอยู่ อย่าเพิ่งกวน มันก็แค่จิ๊ปาก แล้วเดินกลับไปเล่นเกม

ซักพัก พองานมี่เสร็จ มี่เลยเปิดแร๊ก เดินดูของ มันเดินมาหามี่ พี่ๆ พี่เล่นแร๊กด้วยเหรอ เล่นเซิฟไหนอ่ะ :-X
มี่ก้อคุยๆกะมันไปเรื่อย เพราะงานเสร็จแล้ว ฝอยได้ ซักพักมันชวนมี่เล่นเกมส์กะมัน มี่ก้อเล่นด้วยเฉยเลย ทำไปได้ เด็กๆในร้านเริ่มมามุงเครื่องมี่เยอะขึ้นๆแล้วก็คุยกัน หยอกกันไปเรื่อย จนมาถึงจุดไคล์แมก มี่หันไปถามมันว่า นี่ มาเล่นเกมส์แบบนี้ไม่รู้จักกลับบ้านกลับช่อง พ่อแม่ไม่ว่าหรอ

มันเงียบ ไม่พูดอะไร หันไปทำอะไรไม่รู้ ไม่ตอบ แต่มีเด็กคนนึง ท่าทางเหมือนลูกคนมีกะตัง ขาวๆ อ้วนๆหน่อย คงเปนลูกแม่ค้าแถวนั้นแหละบอกมี่ว่า พี่พ่อแม่มันไม่ด่าหรอก มันอ่ะ ไม่มีพ่อแม่ซะหน่อย พี่จะให้มันไปไหน มันไม่มีบ้าน แล้วก็หัวเราะเยาะ มี่เงียบเลย พูดไม่ออก หันไปมองหน้ามัน มันก้อนั่งนิ่ง ไม่เถียงไม่พูด มี่เลยเปลี่ยนเรื่อง ชวนมันคุยเรื่องเกม ให้มันเลิกทำท่าเป็นหมาเหงา

มี่หลอกถามเด้กแถวนั้น ก้อได้ความมาว่า เด็กคนนี้ ชื่อ บอย ไม่มีพ่อแม่หรอก ไม่มีบ้าน อาศัยนอนร้านเกมส์ ร้านนี้แหละ ทุกวันต้องขอตังมาให้พอจ่ายค่า ชม.เกมส์ ชม.ละ 10 บาท จะได้มีที่ซุกหัวนอนไปวันๆ ที่นอนก้อ โต๊ะเกมส์โต๊ะสุดท้าย หน้าห้องน้ำ ข้าวก้อขอแม่ค้าแถวนี้กินแล้วแต่เค้าจะมีอาหารอะไรเหลือให้ กิน เค้าให้อะไรก้อต้องกิน เสื้อผ้า ชุดเดียวนี่แหละ เสื้อเขียว กางเกงขาสั้น มอมๆ ขาดๆ รองเท้า ไม่มี เดินเท้าเปล่า มี่นึกไปถึงคำพูดของพนักงานคนนั้น แล้วได้แต่นึกว่า คนเราก็งี้ มองกันแค่สิ่งที่เหน ที่ได้ยินมาแล้วเอามาตัดสินคนอื่น ซึ่งตอนแรกมี่ก้อเปน นึกเสียใจที่ไปตบกบาลเหม่งมัน

ตอนนี้ มี่กะมันก้อสนิทกันในระดับหนึ่ง เจอมะไหร่ แก้อโดนมันไถตังอีกเหมือนเคย แต่คราวนี้ มี่ให้ด้วยความรู้สึกต่างจากเดิม
จากที่ให้เพราะเสียไม่ได้ กลับกลายเปนว่ากระตือรือร้นที่จะให้ บางทีรู้ว่าจะเดินไปเจอมัน รีบควาญหาตังไว้รอแระ มันขอแน่ๆ มี่รู้
แต่มันก้อมะเคยขอมี่อีกเลยนะ บางทีมี่เดินผ่านไปเจอมันขอคนอื่นอยู่ มันหันมาเจอมี่ มันก้อ อ้าว แระเดินมาหัวเราะ แหะๆ มี่ก้อควักตังให้ไป แล้วก้อกลับเหมือนรู้กัน


ตอนนี้มี่ไม่ได้ไปทำธุระที่เมเจอร์อีกแล้ว ไม่ได้เจอมันเปนเดือนแล้ว อดเปนห่วงมันนิดๆ แต่รู้นะว่ามันเอาตัวรอดได้ ก้อมันรอดมาได้ก่อนเจอมี่ตั้งนานนี่นา เด็กมันสามารถ


ส่วนนี่คือ อ๊อฟชั่นประกอบของบอย

- แต่งไฮ 5 ได้สวยเริ่ด ใช้โค๊ดแต่งด้วย แก้โค๊ดเองอีกตะหาก มีบล๊อก มีไดอะรี่ออนไลน์ ทำเอง แถมรับแต่งให้เพื่อนๆมันในร้านอีกตะหาก
- รู้เรื่องเกมส์ดีมากๆ อธิบายเกมส์ได้น่าฟัง รู้ลึก ละเอียดยิบ วิจานณ์เกมส์ได้มันมาก
- ใฝ่รู้ มีเรื่องอะไรที่มันอยากรู้มันมาจ้องๆ คะยั้นคะยอให้เล่าให้มันฟัง ให้อธิบายให้ฟัง แล้วไปหัดทำ จนทำได้ ด้วยตัวเอง
- อดทน ถ้ามันไม่อดทน มันอยู่มาไม่ถึงป่านนี้หรอก
- ฉลาด มี่ดูแล้ว เด็กมันฉลาดจริงๆ มีไหวพริบ ทันคน แต่เสียนิดๆ ปากหมา อันนี้ต้องปรับปรุง
ที่แน่ๆ มันสามารถอ่านออกเขียนได้คล่อง กว่าเด็กวัยเดียวกันมากมาย ตอนนั้นมัน 11 ขวบเอง ไม่เคยเรียนหนังสือ แต่สามารถอ่านออก เขียนได้ เม้นไฮ 5 ไวมาก


มี่คิดแค่ว่า ถ้าเด็กมันมีโอกาสนะ ถ้าเพียงบอยมันมีโอกาส และมี่ก้อได้แต่หวังว่า คงมีซักวัน ที่จะมีคนยื่นโอกาสดีๆให้มันบ้าง

ใครพอจะมีโอกาสแบ่งขายมั้ยคะ มี่ขอซื้อหน่อย มี่จะซื้อโอกาสไปฝากเด็กคนนี้

มติสรุปในที่ประชุมการจัดสรรเงินบริจาคปิดโครงการไทยช่วยสันติสุข ครั้งที่ 2

เนื่องจากที่มี่เคยระดมทุนช่วยเหลือโครงการไทยช่วยสันติสุข ด้วยการประชาสัมพันธ์ข่าวโครงการ และรับงานพิเศษโพสบทความเพื่อนำเงินไปบริจาคสมทบกับพี่ๆในโครงการ และได้รับการตอบรับที่ดีจากเพื่อนๆ พี่ๆในบอร์ด ซึ่งต่างก็ช่วยให้ความอนุเคราะห์ ร่วมช่วยเหลือโครงการ มี่ขออนุญาติแจ้งความเป็นไปของโครงการนะคะ

ตอนนี้ ได้ปิดโครงการไทยช่วยสันติสุข ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2551 เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ
ยอดเงินบริจาคทั้งสิ้น 835,280 ( แปดแสนสามหมื่นห้าพันสองร้อยแปดสิบบาท)ค่ะ

มติสรุปในที่ประชุมการจัดสรรเงินบริจาคปิดโครงการไทยช่วยสันติสุข ครั้งที่ 2

แบ่งเป็นเป็น 4 รายการช่วยรบใหญ่ๆ และอุปกรณ์สนับสนุนภารกิจมวลชนสัมพันธ์ดังนี้ค่ะ

ซื้อรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ซีอาร์บี 150 ซีซี ราคาคันล่ะ 65,000 บาท โดยซื้อได้ 4 คัน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 260,000 บาท โดยโครงการฯ จะมอบจักรยานยนต์ ให้กับ หน่วยตำรวจตระเวนชายแดน รบพิเศษพลร่ม ค่ายนเรศวร ปฎิบัติหน้าที่ในจ.ยะลา หน่วย ตชด.443 ทั้งหมด 4 คันค่ะ

ซื้อเสื้อเกราะ กันกระสุน ระดับความป้องกัน 2เอ ราคาตัวละ 5,000 บาท โดยซื้อได้ 90 ตัว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 450,000 บาท และท่าน พ.ต.ท.กฤษฎากร เชวงศักดิ์โสภาคย์ ยินดีมอบเสื้อเกราะให้โครงการฯ อีก 10 ตัว (มูลค่า 50,000 บาท) รวมเป็นเสื้อเกราะของโครงการฯ มีจำนวนทั้งสิ้น 100 ตัว โดยทางโครงการฯ จะมอบเสื้อเกราะให้กับ หน่วยกองพันทหารราบที่ 801 ค่ายศรีสองรัก จ.เลย ปฎิบัติหน้าที่ใน จ.ปัตตานี (หน่วยเพาะกิจ ปัตตานี 25 ) เป็นจำนวน 80 ตัว และมอบเสื้อเกราะให้กับตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐาน สำนักวิทยาการตำรวจ จ.นราธิวาส เป็นจำนวน 20 ตัว รวมจำนวนเสื้อเกราะที่ส่งมอบทั้งสิ้น 100 ตัวค่ะ

ซื้อเวชภัณฑ์กองทัพ ได้แก่ ผงห้ามเลือด 10 ถุง ราคาถุงล่ะ 3,800 บาท รวมเป็นเงิน 38,000 บาท และซื้ออุปกรณ์อื่นๆ ตามรายการจัดหาอีก 22,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 60,000 บาท ค่ะ

ซื้ออุปกรณ์อำนวยความสะดวก อุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัย ได้แก่แว่นตากันสะเก็ด 10 อัน ราคาอันล่ะ 2,600 บาท รวมเป็นเงิน 26,000 บาท และถุงมือปฎิบัติการอีก 24,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 50,000 บาท


รายการของซื้อสนับสนุนภารกิจมวลชนสัมพันธ์

ซื้อยาสามัญประจำบ้านแจกชาวบ้าน ประเภทยาแก้กลากเกลื้อน โรคผิวหนัง และยาคลายเส้น แก้อาการปวดเมื่อย เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 8,268 บาท ค่ะ

ซื้ออุปกรณ์เครื่องเขียน และหรือ อุปกรณ์การกีฬาแจกเด็กนักเรียน เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 7,007 บาท ค่ะ

ส่วนการส่งมอบ ทางโครงการกำลังหาข้อสรุปค่ะ อยู่ในระหว่างสรุปผล อดใจรอนิดนะคะ มี่จะมาอัพเดตอีกทีค่ะ
แต่ว่าคงจะเป็นหลังวันที่ 15 มกราคม แต่ก่อนวันที่ 1 กุมภาพัน 2552 แน่นอนค่ะ

โครงการไทยช่วยสันติสุข ครั้งที่ 2 นี้ ปิดตัวลงด้วยดีอย่างสวยงามก็ด้วยความเมตตาจากพี่ๆ ที่คอยช่วยเหลือ มี่ขอบคุณมากๆนะคะ และมี่ก็หวังเป็นอย่างยิ่งค่ะว่าจะได้มีโอกาสร่วมงานบุญเช่นนี้กับพี่ๆอีกครั้งนะคะ

ปล.ตอนนี้ทางโครงการกำลังดำเนินการรับสมัครผู้ร่วมเดินทางไปส่งมอบเสื้อเกราะ เมื่ออาสาสมัครและเจ้าหน้าที่พร้อม จะออกเดินทางไปส่งมอบของทันทีค่ะ ตอนนี้มี่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะลงไปส่งมอบของด้วยได้รึป่าว เพราะว่าการเดินทางต้องค้างคืน 1 คืน ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 3 วัน เลยกังวลนิดๆเพราะไม่เคยออกไปไหนไกลๆเลย ยังไงอดใจรอนิดนะคะ มี่จะนำข่าวคราว ความเคลื่อนไหวต่างๆมาอัพเดตให้ทราบอีกทีค่ะ

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2551

ภารกิจที่ต้องใช้รถจักรยานยนต์

ในจำนวนรายการอุปกรณ์ช่วยรบตามบัญชีการสนับสนุนของโครงการไทยช่วยสันติสุข ครั้งที่ 2 มี รถจักรยานยนต์ ยี่ฮ้อ ฮอนด้า รุ่น ซีบีอาร์ 150 ซีซี (พีแอล) จำนวน 16 คัน รวมอยู่ด้วย (เบื้องต้นราคาอยู่ที่คันละ 65,000 บาท ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างตกลงราคาอีกครั้งกับทางบริษัทฮอนด้า คาดว่าจะได้รับราคาที่ถูกลงกว่านี้อีก และทางคณะกรรมการโครงการฯ จะแจ้งให้ท่าผู้บริจาคทราบในวาระต่อไปค่ะ)

รถจักรยานยนต์ยี่ฮ้อ ฮอนด้า รุ่น ซีบีอาร์ 150 ซีซี (พีแอล) นั้น เป็นรถจักรยานยนต์รุ่นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดให้เป็นรถจักรยานยนต์มาตรฐานในการปฎิบัติภารกิจของตำรวจ ( สภาพเหมือนรถที่ตำรวจจราจรใช้ค่ะ ถ้าได้ไฟล์ภาพจากทางบริษัทฮอนด้าเมื่อไหร่จะนำมาลงให้ท่านผู้บริจาคดูอีก ครั้งหนึ่งนะคะ) ซึ่งมีความทนทานสูง เหมาะสำหรับสภาพการใช้งานในพื้นที่ลาดชันสลับกับเนินเขาเป็นระยะๆ เพราะสามารถแบกรับน้ำหนักโดยรวมได้มากกว่ารถจักรยานยนต์ทั่วไป

ภาพและเหตุผลประกอบมาให้ทุกท่านทราบว่าทำไมรถจักรยานยนต์จึงมีความจำเป็นในการปฏิบัติภารกิจใน 3 จังหวัดชาตแดนภาคใต้รถจักรยานยนต์

ทำไมถึงต้องใช้รถจักรยานยนต์ ?!?

1. การใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะในพื้นที่ เพื่อเพิ่มเป้าหมายที่ฝ่ายตรงข้ามจะกระทำ ซึ่งเป็นการลดความ สูญเสียในการปฏิบัติงาน ของกำลังพล และสามารถเพิ่มความอยู่รอดในสนามรบเพื่อทำการตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม

2. สภาพเส้นทางในการปฏิบัติหน้าที่ (ในพื้นที่รับผิดชอบ) เป็นเนินเขาสลับทางลาดชัน การใช้รถจักรยานยนต์ ในการ ระงับเหตุหรือสนับสนุนชุดที่ถูกซุ่มโจมตี สามารถกระทำได้อย่างคล่องตัวและรวดเร็วกว่าการใช้รถยนต์

3. เนื่องจากสภาพพื้นที่ตามข้อ 2. ประกอบกับน้ำหนักในการบรรทุกเจ้าหน้าที่ 1 คันต่อเจ้าหน้าที่ 2 นาย รถจักรยานยนต์ที่เหมาะสมควรจะมีขีดความสามารถ ทนทานทั้งรูปร่างและสภาพเครื่องยนต์ และสามารถใช้เดินทางในระยะไกล 100กิโลเมตรได้โดยสภาพเครื่องยนต์ของรถไม่เสื่อมสภาพไวนัก

4. การใช้จักรยานยนต์สามารถลดการใช้งบเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงซึ่ง อะไหล่และอุปกรณ์ต่างๆ เช่นน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก ผ้าเบรก เป็นต้น ซึ่งของรถจักรยานยนต์จะถูกกว่ารถยนต์กระบะ และสามารถทำการเปลี่ยนซ่อมบำรุงรักษา และนำกลับมาใช้ปฏิบัติหน้าที่ ได้ไวกว่ารถยนต์

ภารกิจที่ต้องใช้รถจักรยานยนต์ มีอะไรบ้าง !?!

รักษาความปลอดภัยให้แก่คณะครู

หน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยให้กับคณะครู ที่เข้ามาสอนในพื้นที่ฯ โดยจะทำการรับส่ง ในทุกวันจันทร์และวันศุกร์ของทุกสัปดาห์ ระยะทางตั้งแต่ อ.บันนังสตา ถึง บ้านสันติ 2 รวมระยะทาง ทั้งสิ้น 36 กิโลเมตร รวมระยะทางไปกลับ 72 กิโลเมตร แต่ลักษณะภูมิประเทศ ตั้งแต่ บ้านสันติ 2 จนถึงหน้าเขื่อนบางลาง มีลักษณะเป็นทางขึ้นลาดชัน สลับกับทางคดเคี้ยว (ดูแผนที่ประกอบ)

การจัดซื้ออาหารในแต่ละสัปดาห์

เนื่องจากในแต่ละเดือน นั้นแต่ละชุดปฏิบัติการนั้น ต้องซื้อจัดซื้ออาหาร โดยช่วงระยะเวลาทุกๆ 5 วัน ซึ่งจะใช้รถจักรยานยนต์ในการ รปภ. รถยนต์ที่ออกไปขนอาหารสดและอาหารแห้ง โดยเดินทางจาก บ้านสันติ 2 ถึงตัวเมืองจังหวัดยะลา รวมระยะทางทั้งสิ้น 75 กิโลเมตร ยะระทางไปกลับ 150 กิโลเมตร ซึ่งหนึ่งเดือนจะทำการซื้ออาหารทั้งหมด 6 ครั้ง โดยจะใช้รถยนต์ 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 4 คัน

การสนับสนุนบุคคลสำคัญในพื้นที่

โดยทั่วไปจะเป็นการ รักษาความปลอดภัยผู้ใหญ่บ้าน หรือ พระสงฆ์(สำนักสงฆ์บ้านเยาะ) ในกรณีที่มีภารกิจที่ทางราชการหรือทางจังหวัดแจ้งมาให้ออกไป ดำเนินการภารกิจของ กลุ่มบุคคลดังกล่าวก็จะใช้รถจักรยานยนต์เป็นหลักในการรักษาความปลอดภัย

ทำไมต้องเป็นฮอนด้า ซีบีอาร์ 150 ซีซี ?!?

ในภารกิจมีความจำเป็นต้องใช้รถจักรยานยนต์ 4 คัน ต่อ รถยนต์ 1 คัน (รถยนต์ใช้สำหรับเสริมความหนาแน่นของกำลังพลและขนรถจักรยานยนต์ในกรณีที่รถ จักรยานยนต์เสีย) การ ใช้รถจักรยานยนต์เพื่อประกอบภารกิจนั้น น้ำหนักตำรวจรวมอาวุธปืน กระสุน เสื้อเกราะ และหมวกเหล็กแล้ว หนึ่งนายมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 80 - 100 กิโลกรัม และรถจักรยานยนต์ 1 คัน ต้องบรรทุกตำรวจ 2 นาย จึงจำเป็นต้องใช้รถจักรยานยนต์ที่สามารถบรรทุกน้ำหนักได้มากกว่ารถ จักรยานยนต์ปกติทั่วๆ ไป และต้องมีเครื่องยนต์ที่มีกำลังมากเพียงพอ เพราสภาพพื้นที่ที่ใช้งานนั้นมีลักษณะเป็นเนินเขา ทางลาดชัน ถ้าจำนวนเครื่องยนต์ต่ำและต้องแบกรับน้ำหนักตำรวจพร้อมอาวุธอีก 2 นาย ผลคือ รถจักรยานยนต์หมดกำลัง หรือไม่มีแรงพอที่จะขับเคลื่อน ทำให้ประสิทธิภาพในการปฎิบัติภารกิจลดน้อยลง

บริจาคให้กับใคร และทำไมต้องบริจาคถึง 16 คัน ?!?

โครงการไทยช่วยสันติสุข ครั้งที่ 2 มีความประสงค์จะบริจาครถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ซีบีอาร์ 150 ซีซี (พีแอล) จำนวน 16 คัน หรือตามจำนวนที่ได้รับบริจาคทั้งหมด ให้กับกองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน จัดกำลังพล 2 กองร้อย (4 ชุดปฎิบัติการ ได้แก่ ชุด รพศ.1 ,รพศ.2 ,รพศ.3 และรพศ.4 ) ในพื้นที่จังหวัดยะลา ซึ่งแบ่งเป็นชุดปฎิบัติการละ 4 คัน

แผนที่แสดงเส้นทางการเดินทางหลักระหว่างเขื่อนบางลางและโรงกเรียนบ้านเยาะ

ภาพการลาดตระเวนตรวจพื้นที่ซุ่มเสี่ยง

สภาพบริเวณเส้นทางที่เป็นป่ารก และเนินสูงชัน

ระดมกำลังปรับปรุงบริเวณเส้นทาง ลดความเสี่ยงในการถูกซุ่มโจมตี

เจ้าหน้าที่และชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจกันตัดพุ่มไม้รกสองข้างทาง


วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

อัพเดตจ้า



อัพเดตใหม่ สดๆค่า ตังก้อนแรกที่ได้จากการทำงานพิเศษ เพื่อช่วยพี่ๆทหาร อิอิ


หนูมี่ทำงานพิเศษด้วยนะเอ๊อออออออ ช่วยโครงการไทยช่วยสันติสุข ได้เงินก้อนแรกแล้ว เย้ๆ ภูมิใจๆ


ขอบคุณมากนะค๊า พี่ ndesigns ก้อมี่ม่ายรู้ชื่อจริงพี่เค้านี่เนาะ อิอิ เอานามแฝงมาก่องกะได้ๆๆ

แต่ถ้าจะให้มี่ทายนะ มี่ว่าพี่เค้าชื่อ พี่ยุทธ แน่เลย ยุทธพงษ์ ด้วย เอ๊า จริ๊ง มี่ทายแม่นนะเอ๊ออ

เวปที่มี่โพสบทความให้พี่เค้า เวป travelthailandtours.com นี้

กับ venture-africa.com เอิ๊กกกกกกกกกก ภูมิใจ

พี่เค้าบอกจาโอนตังมาให้ก่อนด้วย 500 แน่ะ น่านๆๆ ใจดีป่ะล่ะ

ขนาดงานยังทำไม่ครบนะเนี่ย อ๊ากกกกก

เด๋วพอได้สลิปแร้ว มี่จะเอามาอวดนะค๊าฟ พี่น้องงงง

มองให้ไกลตัว

พวกเราลองมองให้ไกลจากตัว

ที่เราทุกวันนี้

สามารถใช้ชีวิตได้อย่างใจต้องการ

สามารถเดินป่าชื่นชมธรรมชาติ

มีเพลงเพราะๆฟัง

สนุกกับการกีฬา

มีความสุขกับเพื่อนๆ

เพลิดเพลินไปกับไอติมถ้วยโต

ภิรมย์กับเบาะนุ่มๆและหนังอินเทรนด์

พวกเรา

ลองมองให้ไกลจากตัวหน่อยดีไหม

ที่ๆเราอาจหลงลืม

เพราะเราไม่ได้เห็นด้วยตา หรือรับรู้กับตัว

คุณรู้ไหมว่า ทุกวันนี้

เราใช้ชีวิต

อยู่บนความเสียสละของใคร

แล้วทุกครั้งทุกคราวที่เรารับรู้ข่าวสารของการสูญเสีย

นี่เป็นเพียงสิ่งที่เราทำได้เพื่อคนที่พลีชีพเพื่อชาติเท่านั้นเหรอ

เรา...ทำอะไรได้มากกว่านี้ไหม?

โครงการไทยช่วยสันติสุข ครั้งที่ 2

ขอเชิญร่วมบริจาคสมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์ช่วยรบ ( รถจักรยานยนต์ เสื้อเกราะ เวชภัณฑ์ วิทยุสื่อสาร ฯลฯ ) มอบให้กับเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจที่ปฎิบัติภารกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ทหารหาญผู้เสียสละ ร่วมแบ่งเบาภาระในการปฎิบัติหน้าที่และเสริมสร้างกำลังใจให้แก่วีรบุรุษนักรบของชาติในยามที่พวกเขายังมีลมหายใจอยู่..

มาซิค่ะ.. ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในสายธารแห่งน้ำใจครั้งนี้ด้วยกันกับชมรมไทยช่วยสันติสุข..

เปิดรับบริจาคตั้งแต่วันนี้ และจะปิดรับบริจาควันสุดท้ายในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2551

บริจาคเงินสมทบทุนเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ช่วยรบ

ชื่อบัญชี ไทยช่วยสันติสุข

เลขที่บัญชี 186 - 2 - 11816 - 1

บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารทหารไทย สาขาโรงพยาบาลเซ็นต์หลุยส์

วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551

มาเขียนจดหมายกันนะคะ





"ถ้าใครชวน เราทำบุญกับเขา แสดงว่าเขาอยากร่วมบุญร่วมกุศลกับเรา เกิดชาติหน้าจะได้กลับมาพานพบร่วมสร้างบุญด้วยกันอีก ถ้าเราอยากจะเกิดมาพบกับเขาอีกก็ให้ร่วมบุญกับเขาไป"

นี่มี่ชวนแล้วนะเนี่ย อายจัง


อัพเดตข่าว อิอิ ตอนนี้มี่ไปมี่โทรไปเชิญชวนแกมบังคับป๊ะป่าให้ร่วมโครงการ ป๊ะป๋าเปงผู้อำนวยการโรงเรียนน่ะค่ะ เลยขอร้องให้ป๊าช่วยประชาสัมพันธ์ให้ อาจารย์และนักเรียนในโรงเรียนทราบข่าวและช่วยกันเขียนจม.ไปให้กำลังใจพี่ๆ คาดว่าไม่เกินเดือนนี้มี่กลับบ้านไป คงได้จม.มาเปงหอบ พี่ๆจะอ่านไหวป่าวเอ่ย แล้วหวังว่าลายมือน้องๆประถม คงจะไม่อ่านยากเกินไปนะคะ แต่ถึงยังไงเค้าก็เอาใจเขียนกัน

มี่เล่าเรื่องพี่โครงการให้ป๊าฟัง ป๊าบอกมี่ว่าหลังจากที่ป๊าประชาสัมธ์ข่าวนี้แล้ว ป๊าเดินตรวจโรงเรียนอยู่เดินผ่านเด็กๆป.1กลุ่มนึง เค้าพากันยกมือขึ้นทำความเคารพปีาแบบที่ทหารตำรวจเค้าทำกัน เค้าเรียกอะไรน๊า - -* เอานิ้วจิ้มหัวอ่ะ - -* แหะๆ

ป๊าถามว่าทำไมทำท่านี้คับ น้องเค้าตอบมาน่าชื่นใจมากเลยนะคะ ผมอยากเป็นทหารคับ ผมจะปกป้องคุณครูเองคับไม่ให้ใครมาทำอะไรครูคับ นี่ความคิดของน้องๆป.1ค่ะ

โรงหนังเพื่อชีวิต

สวัสดีครับ ผมขอเกริ่นเรื่องก่อน ความจริงไม่ได้อยากดังหรืออยากโชว์ตัวอะไรแบบนั้น ไม่ใช่นะ จุดประสงค์ของผม คือ ต้องการบอกเรื่องราวของพวกผม ที่หลายๆ คนคงไม่เคยรู้ ว่าผมไปทำอะไรกันที่นั้น อยู่กันยังไง สบายดีไหม ทำไมถึงมีเวลาเล่นเน็ตล่ะ อะไรๆ พวกนี้ล่ะครับ

ก็ต้องบอกกันก่อนอีกว่า เป็นทหาร ไม่ใช่นักโทษนะครับพี่น้อง มีสิทธิ์ใช้เน็ตเหมือนประชาชนคนไทยทุกคนล่ะครับ เพียงแต่จะมีเวลาใช้มากน้อยเท่าไหนเอง อย่างพวกผมส่วนมากกลับมาจากงานก็หลับแล้ว ไม่ค่อยเน็ตลิซึ่มซะเท่าไร แต่ถ้าเป็นช่วงพักล่ะก็ผมสู้ตาย ขอออนไลน์จนนาทีสุดท้าย ก็เหมือนพวกคุณนั้นแหละครับ ผมก็มีสังคม มีกลุ่มเพื่อนต้องส่งข่าว เช็คเรตติ้งกันบ้าง อันนี้มันเป็นทำมะดาของคนหล่อ พี่น้องโปรดทำความเข้าใจ

เป็นทหาร ทำไมตลก เอ้า... เห้ย ทหารห้ามตลก ตรงไหนยังไงครับพี่น้อง ทหารก็คน ตำรวจก็คน จะให้พวกผมเก็กแมนตลอด ๒๔ ชม. อันนั้นมันไม่ใช่ม้าง ก้อปุถุชนนี้ล่ะครับ เครียดๆ ก็อยากรีแลกซ์กันนิดนึ่ง อย่าได้ถือสา

อารมภบทมาซะยืดยาว ขอเข้าเรื่องกันซะทีนะครับ พวกคุณเคยสงสัยไหมครับว่าทำไมผมกับพี่น้องสหายศึกร่วมรบอีกหลายๆ คนถึงภูมิใจที่ได้มาปฎิบัติภาระกิจที่นี้ ผมมีคำตอบให้คุณครับ รับรองว่ามันเป็นนิยายเก่าเรื่องเดิมๆ ที่พวกคุณเคยได้ยินมาแล้วแหละ เพราะว่า "พวกผมคือคนรักของพวกคุณยังไงครับ" คนรักคนนี้หวังอยากให้คนที่รักทุกๆ คนมีความสุข สงบ ใช้ชีวิตของแต่ละคนอย่างผาสุขที่สุด ไม่ต้องตระหนก กังวลกับภัยคุกคามใดๆ จะรักษาแผ่นดินไทยไตรรงค์นี้ไว้ให้ลูกหลานของเรา ถ้าผมตายผมก็ยินดีและถือว่าเป็นเกียรติกับชีวิตนักรบอย่างยิ่งที่ได้มอบชีวิตนนี้เพื่อแผ่นดินไทย

คุณคนรักของผมครับ คุณคงแปลกใจล่ะซิ ไม่รู้จักกันแล้วมะอึ้งมารักฉันทำไม

ถามได้ดีครับ

แต่พอดีไม่มีคำตอบ.... !!!

รู้แต่ว่ารักตั้งแต่วันแรกที่ได้รับมอบหมายภาระกิจและจะรักตลอดไปจนกว่าวันสุดท้ายของชีวิตนักรบจะมาถึง

เท่านั้นล่ะครับ สั้นๆ ไม่ลึกซึ้งแต่กินใจ

กว่าจะมาเป็นคนรักของคุณ .....

มาพูดถึงเรื่องงานของผมกันบ้างดีกว่า อยากพูดคันปากยิกๆ พวกผมมีหน้าที่หลายด้าน ตามแต่จะได้รับมอบขอพูดเรื่อง ยุทธการกดดันพื้นที่ป่าเขา เทือกเขาตะเว ซึ่งเป็นฐานที่ตั้งใหญ่ของกลุ่มโจรก่อความไม่สงบนะครับ เดี๋ยวดูภาพประกอบตามไปนะว่าพิสูจน์ทราบ พบอะไรบ้าง ภูมิประเทศเป็นป่าทึบ มีชะง้อนหิน ถ้ำให้ซุกซ่อนเสบียงกรัง ยา อาหาร ตลอดจนอุปกรณ์ที่ใช้ยังชีพในป่ามากเลย ทั้งนี้ยังพบตำราเรียนที่พวกกลุ่มโจรใช้ฝึกกันอีก ดูเอาหนังสือ รด.ไปฝึก

เห็นภาพทั้งหมดนี้พอจะคิดออกแล้วนะครับพี่น้องว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เขามีการฝึก มีการร่วมกลุ่มเป็นกำลัง เพื่อก่อความไม่สงบ จากหลักฐานทั้งหมดที่ค้นพบก็สามารถทำลายทรัพย์สิน เงินทอง รวมทั้งชีวิตของพลเรือนและเจ้าหน้าได้มากแล้ว

อำพรางหน้า คิดว่าจะไม่อำพรางใบหน้าของคุณหญิงหมอ เนื่องจากว่าปิดหน้าคุณหญิงหมอก็ยังจำทรงผมได้ ปิดทรงผมก็จำการแต่งกายได้ เลยกะว่าจะเปิดให้หมด พี่เกือบไม่หล่อ แสดงว่าหล่อใช่ไหม บอกว่า เห้ย...ปิดหน้าให้คุณหญิงหน่อย เดี๋ยวหาว่าพวกเราไม่เซฟตี้แก เอ้าพี่ขอมาผมจัดให้ครับ ปิดให้แล้วล่ะ แต่ผมว่าปิดยังไงคนก็รู้นะว่าคนไหนคุณหญิงหมอ ฮ่า เพื่อความปลอดภัยด้านยุทธการครับไม่สามารถให้เห็นโฉมหน้าเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้

มาถึงงานในพื้นที่กันบ้าง ผมออกลาดตระเวนกันไปตามถนนที่มีป่าหญ้าปกคลุมสูงท่วมหัวอย่างที่คุณเห็นแหละครับ ที่นี้รู้ยังว่าทำไมพวกโจรก่อการร้ายถึงซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ได้ ดูสภาพภูมิประเทศเอื้อไหมครับ ท่านที่เคยเห็นแต่เจ้าหน้าที่รีดไถ่ประชาชน ก็คงจะได้เห็นจากภาพเซ็ตนี้นะครับ ว่าเจ้าหน้าที่ ๓ จังหวัดชายแดนใต้ ไม่รีดไถ่ แต่กลับช่วยงานบุญประชาชน เป็นจำนวนเงินสองพันบาท ไม่บรรยายต่อครับ พูดได้คำเดียว "ผมรักพวกคุณจริงๆ จึงได้ทุ่มเททุกสิ่งแบบนี้" มารักกันนะครับ ไม่มีไทยพุทธ ไม่มีไทยมุสลิม มีแต่พวกเราเป็นหนึ่งเดียว เป็นไทยด้วยกันทั้งหมด นะครับพี่น้อง

หมดภาพงาน ไปต่อกันที่ภาพฐานปฎิบัติการ หรือบ้านของพวกผมบ้างครับ ใครตาดีจะเห็นทั้งหมดทั้งตัวบ้าน ห้องน้ำ โต๊ะกินข้าว หรือกระทั้งโต๊ะคอม ฐานที่เห็นนี้เป็นฐานของน้องตี้ ผู้ล่วงลับครับผม ที่นี้รู้ถึงหัวอกคนรักที่อยู่ชายแดนคนนี้ของพวกคุณหรือยังครับว่าผมไม่ได้มาสบาย ผมทิ้งบีเอ็ม(เอ็กซ์)ไว้ในเมืองหลวง เพื่อมาขี่มอไซค์ห้าง เป็นเด็กแว้นซ์ ผมทิ้งที่นอนนุ่มๆ เพื่อมานอนเตียงสนาม ผมทิ้งสุกี้เอ็มเค เพื่อมากิน.... เฮ้อ อย่าให้เซด เพื่อคุณๆ คนรักของผม อยู่ดีกินดีสุขสบาย ผมยืนยันคำเดิมครับ ผมรักคุณ....ผมทำได้

ภาพเซ็ตนี้เป็นภาพของวันที่ ๒๐ มิย. ๒๕๕๑ นะครับ ไม่อยากบรรยาย อยากให้ดูภาพเอาเอง ขอให้จำปลอกกระสุนปืนไรเฟิล ๕.๕๖ ที่ตกในที่เกิดเหตุไว้นะครับ มันมีภาคสองต่อ อันนี้น่าติดตาม ขอสรุปคราวๆ ละกัน สำหรับรายละเอียดข่าวคงทราบกันบ้างแล้ว ผมสรุปความสูญเสียวันนั้นให้ครับ

พ.ต.ท.กิตติกานต์ กัปปิยบุตร ผบ.ร้อย ฉก.รพศ.๑ ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณ ศรีษะด้านขวากระโหลกยุบ,แขนขวา,ต้นขาขวา,เบ้าตาซ้าย

ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ รอง หน.ชป.๑ ร้อย ฉก.รพศ.๑ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ถูกกระสุนบริเวณศรีษะ ,ใบหน้าและลำตัว

ด.ต.ประสาท โคตรแก้ว ได้รับบาดเจ็บบริเวณ ฝ่ามือด้านซ้าย ถูกยิงทะลุ

จ.ส.ต.อนุสรณ์ บุตรพรม ได้รับบาดเจ็บ ถูกกระสุนบริเวณขา

ส.ต.ท.คมกริช ทองยา ได้รับบาดเจ็บ ถูกกระสุนบริเวณขา

ส.ต.ต.เริงศักดิ์ แก้วเสน่ห์ใน ได้รับบาดเจ็บ ถูกกระสุนบริเวณขา

วันที่ ๒๓ มิย. ๒๕๕๑ เป็นภาพการเจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้า ปิดล้อม กองกำลังติดอาวุธ (RKK) บ้านบาเจาะ อ.บันนังสตา และเป็นชุดเดียวกันที่ซุ่มยิง ร้อย รพศ.๑ (ชุดหมวดตี้)

เดินทางเข้าปิดล้อมพื้นที่ หลังได้สืบทราบจากแหล่งข่าวว่า กลุ่มกองกำลังติดอาวุธแบ่งแยกดินแดน RKK. ได้เคลื่อนไหวอยู่ ใน หมู่บ้านบาเจาะ .ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จว.ยะลา จึงเปิดยุทธการร่วมสนธิเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าปิดล้อมหมู่บ้านเป้าหมาย เพื่อทำการตรวจค้น ควบคุมผู้ต้องสงสัย ร่วมก่อเหตุ ซึ่งแต่ละคนล้วนแต่เป็นญาติพี่น้อง ของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ ที่เสียชีวิต คอยช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่กลุ่ม ขบวนการ เพราะ บ้านบาเจาะ เป็นพื้นที่สีแดงมีการเคลื่อนไหวของ ขบวนการ และ หรือที่เรียกกันว่าหมู่บ้านจัดตั้ง ๑ ในจำนวนหลายหมู่บ้าน ที่ไม่ให้ความร่วมมือกับ รัฐ ก่อเหตุเผาโรงเรียน ขับไล่ ตชด.ชุดคุ้มครองครู และซุ่มยิง จนท.ทหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่กลุ่มกองกำลังติดอาวุธจะหนีมา หลังจากก่อเหตุ อาศัยปะปนกับ ชาวบ้านและพี่น้อง

ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้ง ๖ ศพ (ตามภาพเลยครับ) มีประวัติโชกโชนได้ก่อคดีมาหลายคดี รวมทั้ง ฆ่าตัดคอ เจ้าหน้าที่และชาวบ้าน จากคลิปวีดีโอ ที่พบในที่เกิดเหตุ ***ทราบว่าเป็นชุดเดียวกันกับกรณีลอบซุ่มยิงตำรวจพลร่ม (ชุดผู้กองแคน) และเป็นชุดเดียวกันกับที่ซุ่ม ร้อย รพศ.๑ (ชุดหมวดตี้)เมื่อ ๒๐ มิ.ย.๕๑*** หลังจากการตรวจสอบอาวุธปืน และกระสุนที่กลุ่มก่อการร้ายใช้ สังเกตให้ดีมีหนึ่งศพในหกศพนั้นแหละครับที่ใช้ปืนไรเฟิลขนาด ๕.๕๖ ติดลำกล้องกระบอกนี้ ใช้ยิงเจ้าหน้าที่มาหลายครั้งแล้ว รวมทั้งหมวดตี้ก็ถูกปลิดชีพด้วยไรเฟิลกระบอกนี้เช่นกันด้วย (จากผลการตรวจสอบกระสุนปืนที่พบในที่เกิดเหตุ)

ผลการปฏิบัติในครั้งนี้

ผลการ ปบ. พบวัตถุพยาน อาวุธปืน AK ๔๗ จำนวน ๑ กระบอก,อาวุธปืน HK ๓๓ จำนวน ๑ กระบอก,อาวุธปืนพกสั้นขนาด ๙ มม. จำนวน ๑ กระบอก,อาวุธปืนไรเฟิล ขนาด ๕.๕๖ จำนวน ๑ กระบอก

ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ๘ คน คือ นาย อาซือมัน อาแว,นาย มะกอเซ็ง สะอะ,นาย ดูลกีฟลี นือเร็ง,นาย มูฮำหมัด เจ๊ะแวกูนิง,นาย ดอรอสะ อภิบาลแบ,นาย อุสมาน สาและ,นาย อับดุลเลาะ เจ๊ะแวกูนิง และ นาย อิสมาแอ เจ๊ะแวกูนิง ดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

ผลการ ปบ. กกล.ติดอาวุธ เสียชีวิต ๖ คน คือ นาย มูฮำมัดสะกรี กาโบะ,นาย อิสมาแอ อาลีมามะ,นาย มะรอมลี อัคราช,นาย กอเซ็ง อภิบาลแบ,นาย แวอาลี สะมะแอ,นาย ดารี ดาลอ

จนท.ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะ ๔ นาย คือ ร.ต.ท.สรชัช ทิมทอง รอง สวป.สภ.บาตูตาโมง,ส.ต.ท.วิทยา มหาสาร ผบ.หมู่ (ป) สภ.บาตูตาโมง, ส.ต.ต.พงษ์พิษณะ กิจอุดมสุข ผบ.หมู่(นปพ.) สภ.บาตูตาโมง และ ส.ต.ต.มนตรี ภูเรียงแก้ว ผบ.หมู่(นปพ.) สภ.บาตูตาโมง

ขณะนี้กลุ่มโจรก่อการร้ายยังคงลอบซุ่มทำร้ายทั้งพลเรือนและเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ผมในฐานะคนรักของคุณๆ ทั้งหลาย จะขออาสาใช้ชีวิตนี้เพื่อคุ้มครอง ดูแลความสงบสุขและรักษาผืนแผ่นดินไทยนี้ให้ลูกหลานเราสืบต่อไปครับ ไม่เป็นไรเพื่อคุณๆที่รักผมพร้อมเสมอ เพราะผมรักคุณ.... คนรักมาลำบากอยู่ชายแดน อย่าระเริงคบชู้ชูม็อบ ประเทศชาติไม่ใช่ร้านขายผัก หัดใช้สมองนึกตริตรองดู .....

ขอขอบคุณทีมงานผู้สร้าง .. คนรักทั้งหมดทั้งมวล

บทประพันธ์โดย / พี่น่ารัก

ผู้กำกับ / พี่โหดแต่หล่อ (ชื่อพี่.. ผมรับไม่ได้คับ)

พระเอก / บรรดาคนหล่อทั้งหลายแหล่

ตัดต่อภาพ / พี่หล่อเปิดเผย

เทคนิค (อะไร) / พี่เกือบไม่หล่อ.. ฮาได้อีก

สุดท้าย ขอบคุณเจ้าของโรงหนัง บ้านพี่พลอย / น้องพลอยสวย เห้ย.. พลอยจ๋า (อันนี้ฮากว่า)///โรงหนังของหมวยตะหาก หนังเรื่องนี้หนูมี่ซื้อแล้ววว

หนังจบแล้วค่ะ..

( เก็บถุงขนม แก้วน้ำ และหนังสือพิมพ์กลับไปทิ้งถังขยะด้วยนะคะ.. )

พระราชหัตถเลขาฯ

คุณพ่อนรินทร์ คุณแม่พิมพลักษ์ ในพิธีอัญเชิญพระราชหัตถเลขาฯ

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม เวลา 11.00 น. นายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีอัญเชิญพระราชหัตถเลขา (จดหมาย) ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จากพระตำหนักจิตรลดาฯ มอบให้กับนางพิมพลักษณ์ บุญลือ อาจารย์ประจำโรงเรียนบางปะหัน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา มารดาของ ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ หรือหมวดตี้ อายุ 24 ปี รองผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน หน่วยเฉพาะกิจ หน่วยรบพิเศษที่ 1 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ จ.ยะลา เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา


โดยพระราชหัตถเลขา ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีข้อความว่า

วังไกลกังวล หัวหิน
15 กรกฎาคม 2551

ถึงคุณนรินทร์ และคุณพิมพลักษณ์ บุญลือ

เมื่อครั้งที่ทราบข่าวว่า ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ สละชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดินไทย ในภารกิจลาดตระเวนพื้นที่จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2551 ข้าพเจ้าก็เศร้าเสียใจมากอยู่แล้ว แต่เมื่อมาได้อ่านหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ ร.ต.ต.กฤตติกุล จึงทราบถึงอุดมการณ์ของเขาที่ต้องการทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ในการพิทักษ์รักษาแผ่นดินแม่ อีกทั้ง ร.ต.ต.กฤตติกุล ยังเขียนบันทึกไว้ด้วยว่า ภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่อารักขาข้าพเจ้าเมื่อปีที่แล้ว อุ่นใจที่ได้ใช้ผ้าเช็ดตัวจากถุงสิ่งของพระราชทาน ซึ่งข้าพเจ้ามอบให้กองกำลังอารักขาเป็นประจำเสมอมา และดีใจมากที่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงอาหารที่ทักษิณราชนิเวศน์ ทำให้ข้าพเจ้ายิ่งรู้สึกสะเทือนใจ และแสนเสียดายหนักหนาที่ยังไม่เคยมีโอกาสได้พูดคุยกับวีรบุรุษหนุ่มน้อยผู้นี้เลย ร.ต.ต.กฤตติกุล คือลูกไทยผู้มั่นในความซื่อตรงจงรักภักดีต่อประเทศชาติ นับเป็นโชคดีเหลือล้นที่ประเทศไทยมีผู้กล้าหาญที่ไม่คิดหลบหนีภัย เมื่อมีภัยมาถึงบ้านเมือง แต่กลับเลือกที่จะไปเสี่ยงชีวิตอยู่ในดินแดนอันตราย เพื่อให้พี่น้องชาวไทยส่วนใหญ่ได้อยู่รอดปลอดภัย ข้าพเจ้าทราบดีว่าคุณนรินทร์ และคุณพิมพลักษณ์ เสียใจเพียงใดที่ต้องสูญเสียบุตรชายผู้เป็นที่รัก แต่ขอให้ท่านทั้งสองจงภูมิใจในสายโลหิตผู้ข้นเข้มเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักชาติผู้นี้เถิด เพราะวีรกรรมของเขาจารึกไว้ในแผ่นดินไทย และจารึกอยู่ในความทรงจำของข้าพเจ้าตลอดไป

สิริกิติ์

ขอขอบคุณพี่โย Thaiflight สำหรับภาพประกอบค่ะ

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมข้าพพระพุทธเจ้าบล็อกเกอร์เว็บบล็อกบ้านพี่พลอยและบล๊อกหนูมี่ด้วยเจ้าค่ะ